โรคไอกรนคืออะไร อันตรายขนาดไหน?

| 11 ครั้ง
image
แชร์เรื่องนี้

โรคไอกรน (Pertussis) เป็นโรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจที่เกิดจากแบคทีเรียชนิด Bordetella pertussis เชื้อโรคนี้ทำให้เกิดอาการไอที่รุนแรงและต่อเนื่อง จนบางครั้งอาจทำให้เกิดการอาเจียนและหายใจไม่สะดวก โรคไอกรนสามารถพบได้ในทุกช่วงอายุ แต่มักส่งผลรุนแรงในเด็กทารกและเด็กเล็กที่ยังไม่ได้รับวัคซีนครบถ้วน

สาเหตุและการแพร่เชื้อ

โรคไอกรนแพร่กระจายผ่านทางละอองน้ำลายจากการไอหรือจามของผู้ติดเชื้อ ผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนป้องกันมีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อ โดยเฉพาะในชุมชนที่มีการฉีดวัคซีนไม่ครอบคลุม เชื้อสามารถแพร่ระบาดได้ง่ายในโรงเรียนหรือสถานที่ที่มีคนรวมตัวกันจำนวนมาก

อาการของโรคไอกรน

โรคไอกรนแบ่งออกเป็น 3 ระยะสำคัญ:

  • ระยะเริ่มแรก (Catarrhal stage): คล้ายไข้หวัดทั่วไป มีอาการน้ำมูกไหล ไอเล็กน้อย และอ่อนเพลีย ระยะนี้อาจกินเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์
  • ระยะไอรุนแรง (Paroxysmal stage): เป็นระยะที่เด่นชัดที่สุด มีอาการไอหนักจนหายใจไม่ทัน เสียงไอมีลักษณะเฉพาะเรียกว่า "whoop" ซึ่งมาจากการหายใจเข้าหลังไอ ระยะนี้อาจยาวนาน 2-6 สัปดาห์
  • ระยะฟื้นตัว (Convalescent stage): อาการไอเริ่มลดลง แต่ยังมีไอหลงเหลือได้อีกหลายสัปดาห์ถึงหลายเดือน

อันตรายของโรคไอกรน

สำหรับเด็กเล็ก โดยเฉพาะทารกที่อายุต่ำกว่า 6 เดือน โรคไอกรนสามารถนำไปสู่อาการแทรกซ้อนที่รุนแรง เช่น:

  • ปอดบวม: เป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบได้บ่อยที่สุด
  • ภาวะสมองบวม: อาจเกิดจากการขาดออกซิเจนขณะไอรุนแรง
  • ชัก: เกิดจากความเครียดของระบบประสาท
  • ภาวะขาดน้ำและน้ำหนักลด: จากการอาเจียนและกินอาหารไม่ได้

สำหรับผู้ใหญ่ แม้ว่าอาการจะไม่รุนแรงเท่าทารก แต่การติดเชื้อไอกรนยังคงสร้างความลำบากและอาจแพร่เชื้อไปยังผู้อื่นได้

การป้องกันและรักษา

  1. วัคซีนป้องกัน: การฉีดวัคซีนไอกรน (DTP หรือ DTaP) เป็นวิธีป้องกันที่ดีที่สุด โดยแนะนำให้เริ่มฉีดตั้งแต่เด็กและมีการกระตุ้นซ้ำในช่วงวัยรุ่นและผู้ใหญ่
  2. การรักษา: หากได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นไอกรน การใช้ยาปฏิชีวนะ เช่น Azithromycin หรือ Clarithromycin จะช่วยลดความรุนแรงของโรคและป้องกันการแพร่เชื้อไปยังผู้อื่น
  3. มาตรการป้องกันในครอบครัว: หากมีสมาชิกในครอบครัวป่วย ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดและแยกผู้ป่วยออกจากผู้อื่น โดยเฉพาะเด็กเล็ก

โรคไอกรนเป็นโรคที่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีนและการดูแลสุขภาพที่เหมาะสม แม้โรคนี้จะเป็นอันตราย โดยเฉพาะในเด็กเล็ก แต่ด้วยการรักษาที่ทันสมัยและมาตรการป้องกันที่ดี โอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงสามารถลดลงได้อย่างมาก การฉีดวัคซีนและการดูแลสุขภาพในครอบครัวจึงเป็นสิ่งสำคัญในการลดการแพร่ระบาดของโรคไอกรนในสังคม

โรคไอกรน
แชร์เรื่องนี้

© 2024 Blogs Kub. All rights reserved.